วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

http://www.youtube.com/watch?v=&feature=player_embedded
Thanks to original upload

http://jkdramas.com/kdramas/07/SnowQueen/index.htm
http://www.blogger.com/goog_361919016%AC%EC%99%95/
(Source: http://www.pingbook.com/music/lyrics?id=533&song_id=6398)
http://en.wikipedia.org/wiki/The_Snow_Queen

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ประเมิณเว็บ

http://www.mediafire.com/?j6jm8paexah6j4w

อ้างอิง

ชมิตท์,เบรินด์&ซิมมอนสัน,อะเร็ก.(2545).สุนทรียศาสตร์การตลาด.
            (รจนา,ผู้แปล).กรุงเทพฯ:บริษัท เอ.อาร์.บิซิเนส เพรส จำกัด.

การอ้างอิง

 
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.  (2554).  วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ.2544.    
             ค้นเมื่อ 19 กันยายน  2554, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/วินาศกรรม_11_กันยายน_พ.ศ._2544

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หัวข้อโปรเจ็ค เรื่องสระว่ายน้ำ

             
สระว่ายน้ำ/ออกแบบ&สร้างสระว่ายน้ำมาตรฐาน/ระบบสระว่ายน้ำ/เครื่องกรองสระว่ายน้ำ/อุปกรณ์สระว่ายน้ำ
 
 

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Me-a-ri  By Loveholic

nal chabajwoyo / na-bbeun nae ma-umul 
นัล จาบาชวอโย  นาปึน เน มาอึมมึล
na(ye) shim-jange sal-myonso na-reul chabajwoyo
นา ชิมจางเง ซัล มยอนซอ นารึล จาบาชวอโย 

tal-komhan mal-teul motdwen na-neun chal halsu optjiman 
ทัล คมมัน มัลทึล มดเตวน นานึน จัลฮัลซู ออบจีมัน
orin nae ma-umun ontong kudae-bbunijyo 
ออริน เน มาอืมมึน อนทง คือเด ปูนนิ จโย
kudae-ro kaduk-hae-yo
คือเด โร คาตึก เฮโย


baeng-manbon chonmanbon ma-umun wi-chyoyo 
เพ็กมาน บอนชอน มานบอน มาอึมมีน วี ชยอโย
nae chaga-un yongho-neul anajul saram
เน  ชากาอูน ยงโงนึล อานาจูล ซารัม
sumi makhil mankum nae ane kaduk-han 
ซูมิ มาคิล มานกึม เนอันเน คาตึกคัน
kudae-yo sarang-hae
คือเดโย ซารางเง


tal-komhan mal-teul motdwen na-neun chal halsu optjiman
ทัล คมมัน มัลทึล มดเตวน นานึน จัลฮัลซู ออบจิมัน

orin nae ma-umun ontong kudae-bbunijyo 
ออริน เนมาอึมมึน อนทง คือเด ปูนิ จโย
kudae-ro kaduk-hae-yo
คือเดโร คาทึก เฮโย


kudae-bbuniyeyo nal jikyojul saram 
คือเด ปูนิ เยโย นัลจิก คยอจูล ซารัม
nae chaga-un yonghonul anajul saram 
เน ชากาอูน ยงโอนึล อานาจูล ซารัม
sumi makhil mankum nae-gen kodaran 
ซูมิ มาคิล มานกึม เนเกน คอดารัน
kudae-manul sarang-hae
คือเด มานึล ซารังเง


baeng-manbon chonmanbon ma-umun wi-chyoyo 
เพ็กมาน บอนชอน มานบอน มาอึมมีน วี ชอโย  
nae chaga-un yongho-neul anajul saram 
เน  ชากาอูน ยงโงนึล อานาจูล ซารัม 
sumi makhil mankum nae ane kaduk-han 
ซูมิ มาคิล มานกึม เนอันเน คาตึกคัน  
kudae-yo sarang-hae
คือเดโย ซารางเง
 kudae-bbuniyeyo nal jikyojul saram 
คือเด ปูนิ เยโย นัลจิก คยอจูล ซารัม 


nae chaga-un yonghonul anajul saram 
เน ชากาอูน ยงโอนึล อานาจูล ซารัม 
sumi makhil mankum nae-gen kodaran 
ซูมิ มาคิล มานกึม เนเกน คอ ดารัน  
kudae-yo sarang-hae
คือเดโย ซารังเง
Chut Noon Ae By Kang Sung Min 
자꾸 흔들리는지
แว จา-กู ฮืน-ทืน-รี-นืน-จี
고개만 자꾸 숙여 지는지
แว โค-แค-มัน-จา-กู ซู-กยอ จี-นืน-จี
몸서리 치는 하루 하루는
โมม-ซอ-รี ชี-นืน แน ฮา-รู-ฮา-รู-นืน
끝이 어딘지 몰라
กืด-ที ออ-ทีน-จี โมล-รา


서성이게 되는지
แว ซา-ซอง-อี-เก ทเว-นืน-จี
어떤말이 쌓여 하고픈지
แว ออ-ตอน-มา-รี ซา-ฮยอ ฮา-โค-พืน-จี
사랑도 인연도 운명마저도
ซา-ราง-โท อี-นยอน-โท อูน-มยอง -มา-จอ-โท
이별이란 말로 의미없는
อี-พยอ-รี-ราน มาล-โร อึย-มี-ออบซ-นืน คอล

스쳐온 바람 행여날 스쳐갈까
นาล ซือ-ชยอ-โอน พา-ราด แฮง-ยอ-นาล ซือ-ชยอ-คาล-กา
조아림만 밀어내진
นืล โจ-อา-รีม-มาน มี-รอ-แน-จิน มา
첫눈에 무너지는 모자란 가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จิ-นืน โม-จา-ราน แน คา-ซือ- มี
바보 같아서 눈물 짓게해..
โกก พา-โพ คา-ทา-ซอ นูน-มูล จีด-เค-แฮ...

점점 흐려지는지
แว จอม-จอม ฮือ-รยอ-จี-นืน-จี
가슴이 점점아려 오는지
แว คา-ซือ-มี จอม-จอ-มา-รยอ โอ-นืน-จิ
깊이 베인 한숨 시린 눈물도
คี-พี เพ-อีน ฮาน-ซูม ซี-รีน นูน-มูล-โท
이별앞에 서면 부질없는
อี พยอ-รา-เพ ซอ-มยอน พู-จีล-ออบซ-นืน คอล

스쳐간 바람 그댈 스쳐 지날까
นาล ซือ-ชยอ-คาน พา-ราม กือ-แดล ซือ-ชยอ จี-นาล- กา
조아림만 밀어내진
นืล โจ-อา-รีม-มาน มี-รอ-แน-จีน มา
첫눈에 무너지는 여린 나의가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จี-นืน ยอ-รีน นา-อึย-คา-ซือ-มี
안쓰러 다시 돌아보게
อีน-ซือ-รอ ทา-ซี โท-รา-โพ-เค แฮ

이눈이 그치면 이맘도 변해질까
อี-นู-นี คือ-ชี-มยอ นี-มาม-โท พยอน-แฮ-จิล-กา
흩어지는 눈처럼 사라질까
ฮือ-ทอ-จี-นืน นูน-ชอ-รอม ซา-รา-จีล- กา
계절 돌아오듯 찾아든 너의기억은
เค-จอล โท-รา-โอ-ทืด ชอด-ซา-ทืน-นอ อึย-คี-ออ-คืน
다음 세상까지도 이어갈수 있을까
ทา-อืม เซ-ซาง-กา-จี-โท อี ออ-คาล-ซู อี-ซืล-กา

첫눈에 무너지는 서글픈 내가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จี-นืน ซอ-คืล-พืน แน-คา-ซือ-มี
안쓰러 다시 눈물 짖게해 우워~
อาน-ซือ-รอ ทา-ซี นูน-มูล จีท-เค-แฮ อู-วอ

시간이 지나가면 이맘도 변할까
ซี-คา-นี จี-นา-คา-มยอน นี-มาม-โท พยอน-ฮาล-กา
쌓여가는 눈속에 묻혀질까
ซา-ฮยอ-คา-นืน นูน-โซ-เก มูด-ฮยอ-จีล-กา
가슴 깊이 타올라 버린 너의 기억은
คา-ซืม คี-พี ทา-โอล-รา พอ-รืล นอ-อึย คี-ออ-กืน
숨이 멎을때까지 그대로 남아..
ซู-มี มยอ-ซืล-แด-กา-จี คือ-แท-โร นัม-มา
Chut Noon Ae By Kang Sung Min 
자꾸 흔들리는지
แว จา-กู ฮืน-ทืน-รี-นืน-จี
고개만 자꾸 숙여 지는지
แว โค-แค-มัน-จา-กู ซู-กยอ จี-นืน-จี
몸서리 치는 하루 하루는
โมม-ซอ-รี ชี-นืน แน ฮา-รู-ฮา-รู-นืน
끝이 어딘지 몰라
กืด-ที ออ-ทีน-จี โมล-รา


서성이게 되는지
แว ซา-ซอง-อี-เก ทเว-นืน-จี
어떤말이 쌓여 하고픈지
แว ออ-ตอน-มา-รี ซา-ฮยอ ฮา-โค-พืน-จี
사랑도 인연도 운명마저도
ซา-ราง-โท อี-นยอน-โท อูน-มยอง -มา-จอ-โท
이별이란 말로 의미없는
อี-พยอ-รี-ราน มาล-โร อึย-มี-ออบซ-นืน คอล

스쳐온 바람 행여날 스쳐갈까
นาล ซือ-ชยอ-โอน พา-ราด แฮง-ยอ-นาล ซือ-ชยอ-คาล-กา
조아림만 밀어내진
นืล โจ-อา-รีม-มาน มี-รอ-แน-จิน มา
첫눈에 무너지는 모자란 가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จิ-นืน โม-จา-ราน แน คา-ซือ- มี
바보 같아서 눈물 짓게해..
โกก พา-โพ คา-ทา-ซอ นูน-มูล จีด-เค-แฮ...

점점 흐려지는지
แว จอม-จอม ฮือ-รยอ-จี-นืน-จี
가슴이 점점아려 오는지
แว คา-ซือ-มี จอม-จอ-มา-รยอ โอ-นืน-จิ
깊이 베인 한숨 시린 눈물도
คี-พี เพ-อีน ฮาน-ซูม ซี-รีน นูน-มูล-โท
이별앞에 서면 부질없는
อี พยอ-รา-เพ ซอ-มยอน พู-จีล-ออบซ-นืน คอล

스쳐간 바람 그댈 스쳐 지날까
นาล ซือ-ชยอ-คาน พา-ราม กือ-แดล ซือ-ชยอ จี-นาล- กา
조아림만 밀어내진
นืล โจ-อา-รีม-มาน มี-รอ-แน-จีน มา
첫눈에 무너지는 여린 나의가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จี-นืน ยอ-รีน นา-อึย-คา-ซือ-มี
안쓰러 다시 돌아보게
อีน-ซือ-รอ ทา-ซี โท-รา-โพ-เค แฮ

이눈이 그치면 이맘도 변해질까
อี-นู-นี คือ-ชี-มยอ นี-มาม-โท พยอน-แฮ-จิล-กา
흩어지는 눈처럼 사라질까
ฮือ-ทอ-จี-นืน นูน-ชอ-รอม ซา-รา-จีล- กา
계절 돌아오듯 찾아든 너의기억은
เค-จอล โท-รา-โอ-ทืด ชอด-ซา-ทืน-นอ อึย-คี-ออ-คืน
다음 세상까지도 이어갈수 있을까
ทา-อืม เซ-ซาง-กา-จี-โท อี ออ-คาล-ซู อี-ซืล-กา

첫눈에 무너지는 서글픈 내가슴이
ชอซ-นู-เน มู-นอ-จี-นืน ซอ-คืล-พืน แน-คา-ซือ-มี
안쓰러 다시 눈물 짖게해 우워~
อาน-ซือ-รอ ทา-ซี นูน-มูล จีท-เค-แฮ อู-วอ

시간이 지나가면 이맘도 변할까
ซี-คา-นี จี-นา-คา-มยอน นี-มาม-โท พยอน-ฮาล-กา
쌓여가는 눈속에 묻혀질까
ซา-ฮยอ-คา-นืน นูน-โซ-เก มูด-ฮยอ-จีล-กา
가슴 깊이 타올라 버린 너의 기억은
คา-ซืม คี-พี ทา-โอล-รา พอ-รืล นอ-อึย คี-ออ-กืน
숨이 멎을때까지 그대로 남아..
ซู-มี มยอ-ซืล-แด-กา-จี คือ-แท-โร นัม-มา

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตอนจบของ 127 hour

สนุกและตื่นเต้นมากสำหรับตอนจบยอดเยี่ยม สวยงาม ประทับใจ ขอเรียกว่า killer scene ที่กระชากความรู้สึก และเป็นสำคัญของหนังที่ได้ใจมาก ตั้งแต่ Franco ในสภาพอ่อนแรงพลางตะโกนเสียงแหบแห้งขอความช่วยเหลือจากครอบครัวที่พบเสมือนหนึ่งปาฎิหารย์ต่อลมหายใจ การดื่มน้ำอย่างกระหาย ภาพสโลโมชั่นของการปรากฏตัวของเฮลิคอปเตอร์ ฉากทุกฉากนี้ประกอบกับเพลงที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ เป็นฉากสำคัญที่ทำให้ฉากทั้งหมดนี้กินใจเรา


           Image Hosted by ImageShack.us                     

ฉากจบของ 127 hour

ในเรื่องนี้ฉากจบลุ้นมากแต่รายละเอียดของมันนั้นทำให้ตอนจบดูยอดเยี่ยมสวยงาม ประทับใจมากค่ะ ขอเรียกว่า Killer scene ที่กระชากความรู้สึก และเป็นส่วนสำคัญของหนังที่เร้าใจ และตื่นเต้นมากแต่รายละเอียดของมันนั้นกลับทำให้เป็นตอนจบที่ยอดเยี่ยม สวยงาม ประทับใจ
ขอเรียกว่า killer scene ที่กระชากความรู้สึก และเป็นส่วนสำคัญของหนังที่ได้ใจเรามาก


ตั้งแต่ Franco ในสภาพอ่อนแรงพลางตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งขอความช่วยจากครอบครัวที่พบเสมือนหนึ่งปาฏิหาริย์ต่อลมหายใจ การดื่มน้ำอย่างหิวกระหาย ภาพสโลโมชั่นของการปรากฏตัวของเฮลิคอปเตอร์ ฉากทุกฉากนี้รวมกันไว้ด้วยเพลงแบ็กกราวน์ที่บรรเลงประกอบซึ่งให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉากทั้งหมดนี้กินใจเรา

นับแต่วินาทีที่หูสัมผัสมัน นอกจากเราต้องยับยั้งปากไม่ให้กรี๊ดดดดดดดดขึ้นกลางโรงฯ แล้ว ยังต้องจับหัวใจที่เต้นตึงๆ และเช็ดน้ำตาที่รินไหลอาบข้างแก้มทีละนิดๆ ด้วย

ขอบคุณ Danny Boyle ที่เลือกเพลง Festival ของ Sigur Ros love
เป็นครั้งที่สองที่เห็นเพลง Sigur Ros อยู่ในหนังเขา หลังเทรลเลอร์ของ Slumdog จัด Hoppipolla แบบซึ้งตรึงใจไปแล้วรอบนึง

นี่เป็นวงที่มีเพลงเหมาะกับการใช้ประกอบหนังในอารมณ์ความหวัง ความอิ่มเอิบและซึ้งตรึงใจมากที่สุดวงนึง

และในช่วงท้ายๆ ของเพลง Festival ที่อยู่ในหนังได้จับจิตเราขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงบรรเลงที่ดังขึ้นๆ และฉากของหนังในอารมณ์ที่ความหวังบังเกิด ความเจ็บปวดบรรเทา อิสรภาพถูกค้นพบ

หนังบางเรื่องยิ่งใหญ่ได้เพราะองค์ประกอบหลายอย่าง ตอนจบของ 127 Hours คือหนึ่งในหนังที่สมบูรณ์แบบด้วยเพลงประกอบที่เร้าอารมณ์ความรู้สึกได้ยอดเยี่ยม


Aron Ralston ไม่เพียงแต่ให้แรงบันดาลแก่คนในการมีชีวิตอยู่ หรือถ่ายทอดปาฏิหาริย์ที่ต่อลมหายใจชีวิตหนึ่งชีวิตได้เท่านั้น หนังยังแสดงให้เห็นถึงคาแร็กเตอร์ของเขาที่เป็นคนวัยหนุ่มแสวงความท้าทายและการผจญภัยในชีวิต หันหลังจากชีวิตตื่นเต้นในเมืองไปดื่มด่ำกับความเรียบง่ายของธรรมชาติ ฉากตอนแรกที่เขาขับรถออกจากเมืองไปหุบเขาที่ยูทาห์แสดงให้เห็นถึงแสงสี ความศิวิไลซ์ วุ่นวายขัดแย้งกับที่ที่ซึ่งเขากำลังจะไป

Franco เยี่ยมมากถึงมากที่สุด รู้สึกโชคดีที่ได้ดูหนังหลังจากเห็นผลลัพธ์อันเลวร้ายในเป็น host ออสการ์ของเขา ฉะนั้นครั้งนี้จึงให้อภัยได้

สไตล์ของ Boyle ยังเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องนี้เหมือนเดิม เรื่องนี้หลายมุมดูแล้วนึกถึง 28 Days Later โดยเฉพาะเรื่องการพยายามมีชีวิตอยู่รอดของตัวละคร เรื่องการตัดต่อ ดนตรีประกอบ และการกำกับก็อยู่ในมาตรฐานอันดีงามของ Boyle ด้วย


ส่วนตัวรู้สึกชอบ 127 Hours เป็นอันดับสองในบรรดาหนังของเขา รองจาก Trainspotting



ป.ล. ขออภัยถ้าจะพล่ามเรื่อง Sigur Ros มากกว่าหนัง แต่ฉากจบ+เพลง มันสุดยอดมากจริงๆ ขนลุก!
ความจริงเพลง If I Rise ก็ยอดเยี่ยมและสร้างอารมณ์ให้หนังได้เหมือนกันแหละ ยิ่งฉากแสงอาทิตย์อาบไล้เข้ามาตอนนั้นน่ะ!

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทดสอบ


การรักใครซักคน ไม่ต้องการความพยายาม " การตัดใจ" ต่างหาก ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า ความสุขยามที่คุณได้สบตาเค้า กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า อันไหนมันหนักหนากว่ากัน ....แค่การได้เห็นคนที่เรารัก ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคนที่เค้ารักมากที่สุด ... นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก... อย่างจริงใจ.... ความโสดเป็นนิสัย..ไม่ใช่สถานะ##########